เช็ครถให้พร้อมก่อนเดินทางไกล

เช็ครถให้พร้อมก่อนเดินทางไกล แม้ว่ารถที่คุณใช้งานเป็นประจำทุกวันไม่เคยพบปัญหาใด ๆ เกี่ยวกับภายในและภายนอกของรถยนต์ หากคุณมีแพลนที่จะเดินทางไกล เดินทางไปต่างจังหวัดในวันหยุดยาว ควร ตรวจสภาพรถยนต์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ  ก่อนออกเดินทาง เพราะจะลดการเกิดปัญหารถเสียระหว่างทางได้ และลดการเกิดอุบติเหตุได้ด้วย จุดไหนที่ควรเช็คบ้างเรามีคำแนะนำให้คุณ

 

แบตเตอรี่

          แบตเตอรี่เป็นสิ่งแรกที่ต้องเช็ค เพราะเป็นหัวใจหลักของเครื่องยนต์เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นจุดกำเนิดพลังงานที่กระจายไปตามเครื่องยนต์ และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ควรเช็คว่าแบตเตอรี่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือไม่ เช็คอายุการใช้งานของท่านว่ามีอายุการใช้งานมานานเท่าไหร่แล้ว ถ้าอายุการใช้งานยังไม่ถึง 12 เดือนโอกาสที่แบตเตอรี่มีปัญหาน้อยมาก แต่ถ้าอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของท่าน 12-24 เดือน ให้ลองเช็คระดับน้ำกลั่น เช็คการสตาร์ทว่าเริ่มมีอาการสตาร์ทติดยากหรือไม่  ทำความสะอาดคราบขี้เกลือที่ขั้วแบต เช็คว่าน้ำกลั่นอยู่ที่ในระดับที่กำหนดไหม ตรวจสอบความแน่นของขั้วแบต และฉนวนหุ้มสาย 

 

เช็คน้ำมันเครื่อง

          น้ำมันเครื่อง มีหน้าที่ช่วยหล่อลื่นให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำหน้าที่ในการระบายความร้อน ทำหน้าที่ในการป้องกันสนิมและการกัดกร่อน และทำหน้าที่ในการป้องกันการรั่วของกำลังอัด เพราะฉะนั้นก่อนเดินทางควรเช็คน้ำมันเครื่องว่าอายุการใช้งานไม่เกินระยะทางที่กำหนด และระดับน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับเหมาะสม สามารถเช็คได้จากก้านวัดน้ำมันเครื่อง ก่อนออกเดินทางควรมีน้ำมันเครื่องสำรองติดรถไว้อย่างน้อย 1 ลิตร สำรองไว้ในกรณีฉุกเฉิน

 

ล้อและยางรถยนต์

          ล้อและยางรถยนต์ มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนบนท้องถนน เพราะอุบัติเหตุส่วนมากก็เกิดจากยางแตกทำให้รถเสียหลักและอาจจะเกิดการสูญเสียขึ้นได้ ดังนั้นสิ่งที่ควรเช็ค คือ ลมยาง รอยแตกขอบยาง ความลึกของดอกยาง และอายุของการใช้งานของยาง เช็คดอกยางทุก ๆ 6 เดือน หรือ 10,000 กิโลเมตร  เช็คว่าแก้มยางมีรอยแตก รอยร้าวไหม เช็คว่ายางมีรอยปูด นูนผิดปกติไหม ยางและอะไหล่ต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน

 

น้ำมันเบรกและระบบเบรก

          ระบบเบรก เป็นสิ่งสำคัญเพราะหากระบบเบรกมีปัญหาอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เช็คว่าเบรกอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่ ควรเช็คโดยวิธีเหยียบเบรกแล้วฟังว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่หากมีเสียงผิดปกติ ควรนำรถไปเช็คกับศูนย์ที่ท่านใช้บริการอยู่โดยด่วนน้ำมันเบรกถ้ายังไม่เกิน Max หรือต่ำกว่า Min ก็ถือว่ายังปกติ แต่ถ้าน้ำมันเบรกลดลงครึ่งนึงหรือต่ำกว่า Min ควรนำรถไปเช็คกับศูนย์ที่ท่านใช้บริการอยู่

 

ระบบส่องสว่าง

          ระบบส่องสว่าง และสัญญาณไฟเตือน ไม่ว่าจะเป็น ไฟเลี้ยว ไฟหน้า ไฟหลัง ไฟสูง ไฟต่ำ ไฟตัดหมอก ไฟฉุกเฉิน ฯลฯ ต้องเช็คให้ครบทุกส่วนเพราะระบบส่องสว่างก็สำคัญไม่น้อยในยามที่เราเดินทางตอนกลางคืน จำเป็นต้องใช้ระบบส่องสว่าง หากระบบส่องสว่าง ปัญหาอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้  ควรเช็คไฟส่องสว่างให้ครบทุกดวง ว่าใช้งานได้ปกติ ไม่มัว หากมีอาการติด  ๆ ดับ ๆ ควรนำรถไปเช็คกับศูนย์ที่ท่านใช้บริการอยู่ หรือหาหลอดไฟดวงใหม่มาเปลี่ยน

 

ช่วงล่าง

          ช่วงล่าง สามารถตรวจสอบได้ดีโดยการทดลองขับขี่บนท้องถนนจริงๆ เพราะผู้ที่ขับขี่สามารถรู้ได้ถึงความผิดปกติของช่วงล่าง และเช็คโช๊คได้โดยการใช้แรงกดไปยังตัวรถ หากไม่สามารถคืนตัวได้หรือคืนช้า ๆ ติด ๆ ขัด ๆ แสดงว่าระบบโช๊คมีปัญหา ควรพารถเข้าไปให้ช่างเช็ค

 

ระบบหล่อเย็นในรถ

          ระบบระบายความร้อนถือว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อเครื่องยนต์ หากมีความร้อนสะสมจนมากเกินไปขณะที่เครื่องยนต์ทำงานอาจทำให้เครื่องยนต์น็อคได้ ดังนั้นควรตรวจสอบระบบหล่อเย็นในรถอยู่เสมอ สามารถตรวจเช็คได้โดยระบบหล่อน้ำในหม้อพัก และในหม้อเย็นมีน้ำเพียงพอไหม เช็คระบบพัดลมว่ายังใช้งานได้ปกติอยู่ไหม เช็คว่าน้ำมีการรั่วซึมไหม ทุกอย่างต้องอยู่ใสสภาพที่พร้อมใช้งาน